เวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน 5 – 5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

รีพอร์ต

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องการให้นักเตะของเขาเล่นกันอย่างเต็มที่ในเกมสุดท้ายที่เขาจะคุมทีม ซึ่งเป็นการบุกเยือนเวสต์ บรอมวิช อัลเบี้ยน และพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดในแนวรุกจากผลเสมอ 5 – 5 อันน่าเหลือเชื่อ

ท่ามกลางแสงแดดที่สาดส่องลงมายังฉากสุดท้ายในวงการฟุตบอลของเขา กุนซือชาวสก็อตก็ต้องมาพบกับการที่ลูกทีมเขวี้ยงผล 3 – 0 และ 5 – 2 ที่ออกนำไปก่อนทิ้งไปที่ย่านแบล็ค คันทรี่ มันเป็นการเสมอด้วยสกอร์ 5 – 5 เป็นครั้งแรกของสโมสรนับตั้งแต่ปี 1895

ชินจิ คากาวะ, อเล็กซานเดอร์ บุตต์เนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ เรียงหน้ากันยิงประตูได้ รวมถึง โจนาส โอลส์สัน ที่ซัดเข้าตาข่ายฝั่งตัวเองไป 1 ลูกด้วย แต่แฮตทริคฮีโร่ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาอย่าง โรเมลู ลูกากู ก็มาช่วยมาช่วยให้เดอะ แบ็กกี้ส์ ปิดฉากตำนานของผู้จัดการทีมปีศาจแดงด้วยความผิดหวัง

ทีมแชมป์เดินลงสู่สนามโดยได้รับการยืนเข้าแถวปรบมือ และทั้ง 2 ทีมก็ได้ปรบมือต้อนรับกุนซือชาวสก็อตตอนเดินเข้ามาด้วย บรรยากาศในสนามช่างอึกทึกครึกโครม ทุกๆ คนใช้โอกาสนี้เป็นการสั่งลาเกมสุดท้ายอย่างเป็นทางการของชายผู้ยิ่งใหญ่คนนี้

อัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือนเต็มไปด้วยแฟนปีศาจแดงที่เข้ามาตะโกนเชียร์กันแน่นขนัด และในเกมนี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็โชว์ชั้นบอลอันสุดยอดเล่นงานกองหลังเจ้าถิ่นได้ตั้งแต่ 6 นาทีแรก ลูกจ่ายไปทางกราบขวาของบุตต์เนอร์ดูเหมือนจะสูงเกินไปหน่อย แต่เฮอร์นานเดซก็จับบอลลงมาเล่นต่อได้ ก่อนที่เขาจะครอสเข้ากลางให้คากาวะโขกกดลงพื้นผ่านมืออดีตนายทวารปีศาจแดงอย่าง เบน ฟอสเตอร์ เข้าประตูไป

3 นาทีต่อมา คากาวะไม่ได้สนใจจังหวะที่ ฟาน เพอร์ซี่ สะดุดล้มลง เขาจ่ายบอลออกข้างไปยังวาเลนเซียซึ่งวันนี้เล่นเป็นแบ็คขวา ดาวเตะเอกวาดอร์จ่ายพุ่งเข้ากลาง เป็นโอลส์สันที่สกัดผิดเหลี่ยมผ่านมือฟอสเตอร์เข้าไปทำให้สกอร์ถูกทิ้งห่าง นับเป็นการทำเข้าประตูอีกครั้งของนักเตะเวสต์ บรอมวิช ในการพบกับทีมปีศาจแดง 3 ครั้งหลังสุด พวกเขาสกัดพลาดกันไปถึง 2 ลูกจาก สตีเว่น รีด และ แกเร็ธ แม็คเคาลี่ย์

ทีมฝั่งสีแดงยังคงบุกอย่างบ้าคลั่ง และโอลส์สันก็มาแก้ตัวได้สำเร็จด้วยการสกัดลูกชิพของ ฟาน เพอร์ซี่ ออกหลังเป็นลูกเตะมุมไป ขณะที่ลูกยิงของ ฟิล โจนส์ ก็ไปเข้ามือฟอสเตอร์สบายๆ วันนี้เฮอร์นานเดซเล่นได้อย่างสุดยอด แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมเท่าไหร่ เขาขึ้นโขกลูกครอสของกัปตัน ไมเคิล คาร์ริค ผิดทิศผิดทางไปเยอะ

เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมง ลูกจ่ายของคาร์ริคไปถึงเท้า ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เขารอจังหวะให้บุตต์เนอร์วิ่งเติมขึ้นหน้า ก่อนจะจ่ายให้นักเตะดัตช์ยิงสวนตูมเดียวเสียบเสาไกลเข้าประตูไป เป็นการประสานงานที่ยอดเยี่ยมจนขึ้นนำเป็น 3 ลูก ถึงตรงนี้แฟนๆ เจ้าถิ่นเริ่มเซ็งกับผลงานของทีม จนกระทั่งนักเตะของพวกเขาเริ่มเล่นกระเตื้องขึ้นมา จากจังหวะที่ เชน ลอง ได้ขึ้นโขกข้ามคาน

อย่างไรก็ตาม เฮอร์นานเดซก็เกือบจดชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ดได้อีกครั้ง เมื่อลูกจ่ายของ แอนเดอร์สัน ถูกวาเลนเซียวอลเล่ย์ย้อนมาเข้าทางดาวยิงเม็กซิกัน แต่ลูกยิงของเขาก็ยังขาดความแม่นยำ ทำให้ทีมแบ็กกี้ส์รอดพ้นการเสียประตูไปได้ จากนั้นก็เกิดจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ขึ้นก่อนหมดครึ่งแรก เจมส์ มอร์ริสัน ซึ่งเคยยิงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ก่อนหน้านี้ เอาชนะโจนส์ในการเข้าชาร์จลูกจ่ายของ เกรแฮม ดอร์แรนส์ ผ่านมือ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด เข้าไปเป็นลูกตีตื้น 1 – 3

ทั้ง 2 ทีมยังคงมีโอกาสบวกสกอร์กันอีกในช่วง 5 นาทีก่อนพักเบรค วาเลนเซียและเคลฟเวอร์ลี่ย์ทำทางกันขึ้นมาให้กับเฮอร์นานเดซ แต่ลูกยิงของเขาก็ยังไปตรงตัวฟอสเตอร์ จากนั้นบอลก็ไปป้วนเปี้ยนอยู่ที่อีกฟากของสนามบ้าง แม็คเคาลี่ย์ได้จังหวะยิงให้ผู้รักษาประตูทีมเยือนต้องออกแรงปัดบอลออกหลังไป

เจ้าบ้านเกือบจะไม่ได้จบครึ่งแรกโดยที่ยิงได้แค่ประตูเดียว เมื่อโจนส์จ่ายพลาดทำให้มอร์ริสันหลุดขึ้นหน้า ก่อนที่เขาจะจ่ายไปให้ลองยิงไปติดการพุ่งสกัดของ จอนนี่ อีแวนส์ แบบหวุดหวิด สตีฟ คล้าร์ก เติมประสิทธิภาพในเกมรุกด้วยการส่งนักเตะที่ยืมมาจากเชลซีอย่างลูกากูลงมาในครึ่งหลัง และทำให้ความหวังในการคัมแบ็คของแฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มมองเห็นขึ้นมาบ้าง

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพียงแค่ 5 นาที ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยมจัดการซัดจากนอกกรอบเขตโทษ บอลไม่ได้แรงมาก แต่ก็ถือว่าคมกริบ เป็นลูกที่ลินเดการ์ดทำได้แค่ปัดเข้าสู่ตาข่ายเท่านั้น นายทวารชาวเดนมาร์กถึงกับหัวเสียไปเลย ถึงตอนนี้ความคิดที่ว่า เซอร์ อเล็กซ์ จะปิดฉากตำนานด้วยชัยชนะอันสวยหรูหลังจากที่ขึ้นนำไปก่อนถึง 3 – 0 ก็เริ่มไม่แน่ไม่นอนแล้ว

ทีมปีศาจแดงกลับมาเน้นกันมากขึ้น วาเลนเซียได้จังหวะจ่ายไปให้แอนเดอร์สันยิงไปติดเซฟของฟอสเตอร์ ก่อนที่พวกเขาจะยิงทิ้งห่างออกไปได้อีกสำเร็จ เป็นการจ่ายเลียดเข้ามาจากฝั่งขวาของวาเลนเซีย ซึ่งถูกยิงสู่ก้นตาข่ายเข้าไปโดย ฟาน เพอร์ซี่ ถือเป็นประตูที่ 26 ในลีกให้กับสโมสรแห่งนี้ของดาวยิงดัตช์แมน และเป็นลูกที่ 30 รวมทุกรายการ นับว่าเขาเปิดตัวในฤดูกาลแรกได้อย่างโดดเด่นสุุดๆ

เฮอร์นานเดซได้จังหวะยิงให้แม็คเคาลี่ย์ต้องเคลียร์ทิ้งออกไป หลังจากที่วาเลนเซียได้จังหวะเคลียร์บอลครั้งสำคัญมาด้วยเหมือนกันที่อีกฝั่งของสนาม ไรอัน กิ๊กส์ ถูกส่งลงมาสัมผัสเกม ดาวเตะจอมเก๋าวิ่งขึ้นเกมทางกราบซ้าย เขารับลูกจ่ายมาจากคากาวะ ก่อนที่จะจ่ายเข้ากลางอย่างเหมาะเจาะให้เฮอร์นานเดซซัดประตูที่ 50 ให้กับสโมสรได้สำเร็จ นี่คือผลตอบแทนความพยายามในตัวเขา

เวสต์ บรอมวิชเกือบมายิงตีตื้นได้อีกลูก เมื่อโอลส์สันได้โอกาสยิงโล่งๆ ไม่กี่หลาข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ขณะที่ลูกากูก็ได้จังหวะยิงฟรีคิกออกข้างไป รวมถึงซัดเข้าข้างตาข่ายอีกครั้งด้วย นับเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ส่งไปถึงทีมเยือน

แม้ว่าบุตต์เนอร์จะได้จังหวะครอสบอลไปชนคาน และกิ๊กส์ได้ลองชิพเข้าตาข่ายด้านบน แต่จังหวะบุกส่วนใหญ่นั้นก็ตกเป็นของทีมแบ็กกี้ส์ อย่างไรก็ตาม คงไม่มีใครคาดคิดว่าสกอร์มันจะออกมาบ้าคลั่งขนาดนี้สำหรับเกมสุดท้ายของผู้จัดการทีมปีศาจแดง ดอร์แรนส์ และ บิลลี่ โจนส์ ได้โอกาสยิงทั้งคู่ ก่อนที่ตัวอันตรายอย่างลูกากูจะวิ่งไปซัดลูกจ่ายทะลุเข้ามาของ มาร์คัส โรเซนเบิร์ก เข้าไปเป็นลูกที่ 2 ของตัวเขาเองในช่วงบ่ายอันแสนจะบ้าคลั่งนี้

ไม่กี่วินาทีต่อมา ซึ่งเป็นเพียงแค่การบุกครั้งถัดไปเท่านั้น ยุสซุฟ มูลุมบู ก็มายิงเข้าไปอีกจากการจ่ายเข้ามาของ บิลลี่ โจนส์ ถึงตอนนี้ความหวังคัมแบ็คของเจ้าถิ่นเริ่มมีความเป็นไปได้สูงแล้ว พอล สโคลส์ ถูกผู้ตัดสินจดชื่อไปในเกมนัดสุดท้ายของเขาหลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา ขณะที่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก็ถูกส่งลงมาแพ็คเกมรับให้แน่นหนาขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก๋ารายนี้ก็ไม่สามารถสกัดจังหวะยิงของลูกากูได้ และบอลก็ค่อยๆ กลิ้งข้ามเส้นประตูเข้าไป นับเป็นการไล่ตีเสมอที่สุดยอดเอามากๆ

มันอาจจะไม่ใช่ผลการแข่งขันที่ผู้จัดการทีมของเราต้องการ หรือสมควรจะได้รับ แต่มันก็ถือเป็นเกมที่สนุกตื่นเต้นเอามากๆ ที่สนามเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ กุนซือชาวสก็อตโบกมืออำลาแฟนๆ ที่อัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือนด้วยน้ำตาที่เอ่อล้น บางทีการที่เขาต้องเจอกับแมตช์แบบนี้ต่อไปอีกก็อาจจะไม่ส่งผลดีต่อความดันของเขาก็เป็นได้!

สถิติ/คะแนน


Related Posts