ได้บทสรุปกันเสียทีสำหรับมหากาพย์การย้ายทีมของศูนย์หน้าคนใหม่ประจำโรงละครแห่งความฝัน “โรบิน ฟาน เพอร์ซี่” และพร้อมออกไล่ล่าแชมป์ในนามขุนพลปีศาจแดงทันที
กว่าเรื่องราวจะจบบริบูรณ์ได้ ก็เล่นเอาสื่อและเหล่าแฟนคลับต้องคอยลุ้นคอยตามกันเป็นเดือนๆ ประหนึ่งรายการเรียลลิตี้โชว์ชั้นนำอย่างไงอย่างนั้น ขาดก็แต่ไม่มีระบบโหวตและระบบแชทให้บรรดา FC ได้ระบายความอัดอั้นตันใจที่มี ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต้องมาเผาเสื้อไล่หลังกันอย่างโจ่งครึ่ม
เป็นธรรมดาที่ได้เห็นการแสดงออกอย่างรุนแรงของชาวปืนโต ยิ่งรักมาก…เมื่อถึงคราวเกลียดก็ยิ่งเกลียดเข้าไส้ ในทำนองเดียวกับฝั่งสมหวังก็ย่อมแสดงออกกันอย่างชื่นมื่น เราจึงได้เห็นบรรดาศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันแห่งสถาบันปีศาจ พาเหรดออกมารับขวัญน้องใหม่กันไม่ขาดสาย แต่ในมุมมองของบรรดาเรด อาร์มี่ ก็ใช่ว่าจะเอาแต่สรรเสริญกันไปหมด ยังมีแฟนผีบางกลุ่มยังคงตั้งคำถามถึงความคุ้มค่ากับดีลครั้งนี้
เรามาลองดูกันว่ายูไนเต็ดจะได้-เสีย อย่างไรกับการคว้าศูนย์หน้าเจ้าของหมายเลข 20 คนใหม่มาครอบครอง
เพชฌฆาตในกรอบเขตโทษ
ในเมื่อปรัชญาแห่งโลกฟุตบอลคือ “ผู้ชนะย่อมเป็นของผู้ที่ทำประตูได้มากกว่าคู่แข่ง” แต่ละทีมก็ย่อมต้องแสวงหาเครื่องจักรถล่มประตูชนิดโป้งเดียวจอด ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ยูไนเต็ดยังหาไม่เจอในตัวของ “ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ” หรือ “แดนนี่ เวลเบ็ค” แถมตัวความหวังหลักอย่าง “รูนี่ย์” ก็มักจะพาตัวเองลงมาเชื่อมเกมอยู่บ่อยๆ ดังนั้นศูนย์หน้าที่เคยฝึกยิงประตูถึงวันละ 2,000 ครั้ง แถมยังมีสัมผัสบอลแรกที่ยอดเยี่ยม จึงน่าจะช่วยถมช่องว่างในกรอบเขตโทษได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังจะช่วยให้รูนี่ย์ มีอิสระในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับปีศาจแดงมากขึ้นด้วย นั้นจึงทำให้ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” อดยิ้มไม่ได้เมื่อได้เห็นคุณภาพของศูนย์หน้าอย่างในยุคทริปเปิ้ลแชมป์กลับอีกครั้งหนึ่ง
ตัวเลือกสำหรับฟรีคิก
เป็นที่รู้กันดีว่านับตั้งแต่การจากไปของ “คริสเตียโน โรนัลโด้” ปีศาจแดงยังไม่สามารถมอบสัมปทานการปั่นฟรีคิกให้กับใครอย่างเป็นทางการ เมื่อสมัยสังกัดสถาบันปืนโต เพอร์ซี่ จัดการส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายจากลูกตั้งเตะหน้ากรอบเขตโทษมาหลายต่อหลายครา เขาจึงน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับทีเด็ดทีขาดจากลูกตั้งเตะที่อาจเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้
ความกระหายแชมป์
ไม่น่าเชื่อว่าฝีเท้าระดับดาวซัลโวประจำพรีเมียร์ ลีก จะเคยชูถ้วย เอฟเอ คัพ เพียงแค่ครั้งเดียว แน่นอนว่าการห่างหายจากถ้วยรางวัลใดๆ มาตลอด 7 ปีหลังของอาร์เซน่อล ย่อมเป็นแรงผลักดันสำคัญให้อดีตกัปตันทีมคนโปรดของเหล่ากูนเนอร์ตัดสินใจเก็บกระเป๋าจากมา นั้นจึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่า เราจะได้เห็น ฟาน เพอร์ซี่ มุ่งหน้าตะบันสกอร์ให้กับปีศาจแดงอย่างเป็นกอบเป็นกำเพื่อไล่ล่าแชมป์แรกในรอบ 7 ปีให้กับตัวเองอย่างแน่นอน ยิ่งเมื่อเป็นการตัดสินใจเลือกยูไนเต็ด แทนที่จะเป็นเพื่อนบ้านจอมแสบ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นว่า ศูนย์หน้ากังหันลมมีวิสัยทัศน์ขนาดไหน!
เมื่อมีได้…ก็ย่อมต้องมีเสีย นั้นคือความจริงแท้ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่สิ่งที่เสียไปมันคุ้มค่ามั๊ยกับการได้มา?
เงินจำนวนมหาศาลแลกกับนักเตะอายุ 29 ปี
แม้จะไม่มีการเปิดเผยค่าสินสอดอย่างเป็นทางการจากสโมสร แต่แหล่งข่าววงในก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าแชมป์ลีก 19 สมัยต้องลงทุนถึง 24 ล้านปอนด์ สำหรับการสู่ขอนักเตะที่เหลือสัญญาแค่ปีเดียว แถมมีค่าเหนื่อยที่ต้องจ่ายทุกสัปดาห์เป็นเงิน 235,000 ปอนด์ เบ็ดเสร็จแล้วยูไนเต็ดต้องควักกระเป๋าเกือบ 80 ล้านปอนด์ให้กับศูนย์หน้าเพียงคนเดียวตลอดระยะเวลา 4 ปีจากนี้ไป ที่สำคัญ ดัตช์แมนคนใหม่ เพิ่งจะอายุครบ 29 ปีบริบูรณ์เมื่อไม่กี่วัน ซึ่งถูกมองว่าปีที่ผ่านมาเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดที่เขาจะทำได้แล้ว
จากตัวเลขข้างต้นก็น่าเป็นห่วงสภาพคล่องของสโมสรไม่น้อย แม้จะได้ชื่อว่าเป็นสโมสรกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกก็ตาม แต่จากผลงาน 132 ประตูที่ ฟาน เพอร์ซี่ จารึกไว้กับอาร์เซน่อลก็อดที่จะขอลองเสี่ยงไม่ได้ ในเมื่อรายได้จากการเป็นแชมป์แต่ละรายการก็ไม่ใช่น้อยๆ ไหนจะรายได้จากการขายเสื้อหมายเลข 20 อีก นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ ป๋าเฟอร์กี้ ยอมละเลยปรัชญาการเสริมทีมด้วยดาวรุ่งเพื่ออนาคตไปชั่วคราว และที่สำคัญการลงทุนมหาศาลกับนักเตะเกรด A+ ย่อมดีกว่าปล่อยให้พวกเกลเซอร์เอาเงินไปถลุงทางอื่นเป็นแน่!
ศูนย์หน้ากระดูกพรุน
ตลอด 8 ปีที่อยู่กับอาร์เซน่อล ฟาน เพอร์ซี่ ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บเกือบ 30 หน ไม่ว่าจะเป็นข้อเท้า, ฝ่าเท้า, โคนขาหนีบ, หัวเข่า หรือแม้แต่เอ็นร้อยหวาย เรียกได้ว่าเป็นศูนย์หน้าที่เจ็บมาเยอะ…ผ่านมาเยอะอีกคนหนึ่งของวงการเลยทีเดียว
น่าดีใจแทนทีมแพทย์ของปีศาจแดงไม่น้อยที่พวกเขาจะได้ขาประจำอีกคนไว้ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่สถิติหนึ่งที่น่าประทับใจคือ หลังอาการบาดเจ็บ เพอร์ซี่ มักใช้เวลาไม่นานในการกลับมาทำประตูได้อีกครั้ง อย่างหนล่าสุด แม้จะมีอาการบาดเจ็บจากการรับใช้ชาติ แต่โรบิน ก็กลับมาซัดประตูใส่ “ลิเวอร์พูล” ถึง 2 ลูกทันที นั้นแสดงว่าเขาเจ็บและชินจนสามารถรับมือกับอาการบาดเจ็บได้อย่างดี แล้วเราจะห่วงกันไปใย!
ตัดโอกาสนักเตะดาวรุ่ง
หลายปีหลังมานี้ เซอร์อเล็กซ์ มุ่งทำทีมเพื่ออนาคตอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทัพด้วยนักเตะอายุน้อยฝีเท้าฉกาจ หรือดันดาวรุ่งจากเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ โดยเฉพาะ 2 นักเตะหนุ่มอย่าง ชิชาริโต้ และ เวลเบ็ค ที่มีศักยภาพพอที่จะฝากอนาคตในแดนหน้าไว้ได้ แต่การมาของศูนย์หน้าจอมเก๋า ยอมส่งผลโดยตรงถึงจำนวนการลงสนามของทั้งคู่ และกระทบกระเทือนไปถึงพัฒนาการฝีเท้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่การทิ้งตัวบนม้านั่งสำรองก็ใช่ว่าจะมีแต่ข้อเสีย เพราะทั้งคู่จะได้เรียนรู้การแข่งขันภายในทีม เรียนรู้ทักษะและทัศนคติจากนักเตะระดับดาวซัลโวประจำลีกทั้งในและนอกสนาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางชั้นยอดในการพัฒนาตัวเอง ทีนี้ก็อยู่ที่แต่ละคนจะยกระดับฝีเท้าตัวเองไปได้ไกลขนาดไหน โชว์ผลงานได้ดีแค่ไหนในสนามซ้อม และมั่นใจในตัวเองแค่ไหนเมื่อโอกาสลงสนามมาถึง
วิธีการใช้เพอร์ซี่ร่วมกับคากาวะ
การมาของ “ชินจิ คากาวะ” ถูกคาดหมายว่าจะนำความแตกต่างในเกมรุกมาสู่ยูไนเต็ด หากได้ประจำการอยู่หลัง รูนี่ย์ ทั้งทักษะและการจ่ายบอลชั้นยอดที่แสดงให้ชาวโลกประจักษ์มาแล้วในเยอรมัน จะทำให้ปีศาจแดงไม่ได้มีดีแค่การเข้าทำทางปีกอีกต่อไป อันจะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ ซุปเปอร์รูน ถล่มประตูเป็นว่าเล่น แต่ทันทีที่ เพอร์ซี่ จรดปากกาก็ทำให้การจัดตัวในแต่ละนัดดูยากขึ้น เพราะตำแหน่งที่ดีที่สุดของเพอร์ซี่ คือ หน้าเป้า และตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับคากาวะ คือ หน้าต่ำ
ใช้ ฟาน เพอร์ซี่ คู่ รูนี่ย์ โดยมีคากาวะเล่นหน้าต่ำ – ถ้ายังคงใช้ปีกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของปีศาจแดง ย่อมต้องเสียมิดฟิลด์คู่กลางไปหนึ่งตำแหน่ง แต่ถ้าเลือกให้มีมิดฟิลด์คู่กลางในสนาม ก็จำต้องถ่าง คากาวะ ไปด้านข้างมากขึ้นซึ่งอาจจะบดบังศักยภาพที่แท้จริงของเขาได้
หรือจะเลือกดร็อปคนใดคนหนึ่งระหว่าง แฟทแมน กับ โรบิน ก็จะศูนย์เสียความสามารถของคนนั้นไป หรือเลือกไม่ใช้งาน คากาวะ ก็คงเสียดายความตั้งใจเดิม
นี่ซิถึงเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเหลือเกิน ทั้งกับ เซอร์อเล็กซ์ และ สาวกเรด อาร์มี่ ต้องดูกันต่อไปว่าพ่อใหญ่แห่งค่ายปีศาจจะลงเอยที่แผนไหน และมันจะเวิร์คแค่ไหน นัดเปิดสนามกับ “เอฟเวอร์ตัน” เราจะได้รู้กัน
เมื่อหักลบกลบหนี้แล้ว ก็จะเห็นได้ว่า ฟาน เพอร์ซี่ เป็นทรัพย์สินที่ควรค่ากับการลงทุนทีเดียว ยิ่งได้ฟังสัมภาษณ์แรกของ ดัตช์แมน ก็ทำให้เขาได้ใจแฟนผีขึ้นอีกเป็นกอง เหลือก็แต่โชว์ผลงานพิสูจน์ตัวเองในสนามเท่านั้น
จำนวนแชมป์ลีกสูงสุด กับ หมายเลขศูนย์หน้าตัวใหม่ ช่างเข้ากันดีซะเหลือเกิน
chokechone11
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC